top of page

10 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องเชื่อมแบบมืออาชีพ 

10ปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องเชื่อมแบบมืออาชีพ

ปัจจัยสำคัญที่ช่างมือโปรต้องรู้ ก่อนเลือกเครื่องเชื่อมให้ตอบโจทย์งานของคุณ


1. ประเภทงานอุตสาหกรรม 


เช่น เฟอร์นิเจอร์ โครงสร้างสะพาน โครงสร้างอาคาร อุตสาหกรรมรถยนต์ รถบรรทุก งานการผลิต เครื่องจักร ถังและท่อแรงดัน งานต่อเรือ เชื่อมพอกเพลา อุปกรณ์การเกษตร ฯลฯ ประเภทงานจะเป็นตัวกำหนด ระบบการเชื่อม เช่น เชื่อมธูป เชื่อม TIG เชื่อม MIG/MAG/FCAW หรือ เชื่อมจุด


2. วัสดุชิ้นงาน

 

เช่น เหล็ก สเตนเลส อลูมิเนียม เหล็กหล่อ เป็นต้น วัสดุเป็นตัวกำหนดประเภทของกระแสไฟเชื่อม ในระบบเชื่อมธูป กระแสเชื่อมไฟสลับใช้เชื่อมงานเหล็กเป็นหลัก กระแสเชื่อมไฟตรงใช้เชื่อมสเตนเลส อลูมิเนียม เครื่องที่มีกระแสทั้ง 2 ประเภทจะทำงานได้กับวัสดุทุกประเภท


  • ในระบบเชื่อม TIG กระแสเชื่อมไฟสลับใช้เชื่อมงานอลูมิเนียม กระแสเชื่อมไฟตรงใช้เชื่อมเหล็ก และสเตนเลส

เครื่องที่มีกระแสทั้ง 2 ประเภทจะทำงานได้กับวัสดุทุกประเภท


  • ในระบบเชื่อม MIG/MAG กระแสเชื่อมไฟตรงใช้เชื่อมวัสดุทุกประเภท


  • ในระบบเชื่อมฟลักซ์คอร์ไม่ใช้แก๊ส FCAW-S กระแสเชื่อมไฟตรงขั้วลบใช้เชื่อมเหล็ก


  • ในระบบเชื่อมฟลักซ์คอร์ใช้แก๊ส FCAW-G กระแสเชื่อมไฟตรงขั้วบวกใช้เชื่อมเหล็ก สเตนเลส พอกผิวแข็ง


3. ความหนาชิ้นงาน 


เป็นตัวกำหนดช่วงกระแสเชื่อมที่ต้องใช้ งานหนาใช้กระแสไฟที่สูงขึ้น เครื่องที่มีช่วงกระแสกว้าง สามารถทำงานได้หลากหลายความหนา


4. วัฎจักรการทำงานของเครื่อง 


ถ้าเชื่อมงานต่อเนื่อง มีปริมาณมาก เครื่องต้องมีวัฎจักรการทำงานที่สูงขึ้นตามไปด้วย


5. ความจำเป็นในการเคลื่อนย้า 


ถ้าเป็นงานที่อยู่กับที่ เครื่องเชื่อมหม้อแปลงสามารถทำงานได้ดี แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องเคลื่อนย้ายอยู่ตลอดเวลา เครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์ก็จะสะดวกกว่า



6. การควบคุมเครื่อง 


เลือกเครื่องที่มีการควบคุมที่ใช้งานง่าย แสดงข้อมูลที่ชัดเจน ค่ากระแสตรงกับกระแสจริงที่ใช้เชื่อมงาน


7. สภาพแวดล้อมในการทำงาน


 หากต้องทำงานกลางแจ้ง หรือ ในที่ที่มีฝุ่นมาก ควรเลือกเครื่องที่มีระดับป้องกันการหุ้มบริภัณฑ์ที่เหมาะสม เช่น ระดับ IP21 ขึ้นไป


8. ราคา และ การรับประกัน 


เลือกเครื่องที่คุ้มค่าการลงทุน แม้ว่าเครื่องเชื่อมที่มีคุณภาพสูง มักมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่บ่อยครั้งที่เครื่องเชื่อมเหล่านี้จะมีต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ต่ำลงในระยะยาว ได้ต้นทุนการทำงานที่ดีกว่า เครื่องที่มีการรับประกัน และบริการหลังการขายที่ดี จะช่วยให้อุ่นใจมากขึ้นตลอดการใช้งาน


9. ความสามารถพิเศษของเครื่องเชื่อม 


เลือกเครื่องที่มีความสามารถพิเศษ ช่วยให้ช่างเชื่อมทำงานได้ง่ายขึ้น


10. แหล่งจ่ายไฟ


ที่จะนำเครื่องเชื่อมไปใช้ เป็นไฟ 220 โวลต์ 1 เฟส, 380 โวลต์ 1 เฟส หรือ 380 โวลต์ 3 เฟส



สรุปแล้ว การเลือกเครื่องเชื่อมแบบมืออาชีพไม่ใช่การตัดสินใจจาก “ราคา” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาทั้งประเภทงาน วัสดุ ความหนา Duty Cycle ความคล่องตัว รวมถึงบริการหลังการขาย การเลือกให้เหมาะตั้งแต่ต้น จะช่วยให้งานเชื่อมมีคุณภาพ ประหยัด และปลอดภัยมากขึ้นในระยะยาว



📌 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม / ทดลองใช้งานจริง

☎ โทร: 02-420-0078 | 💬 Line: @weld-master





ความคิดเห็น


bottom of page